5 มิถุนายน 2558
โกยคะแนนพิชิตใจกรรมการ!! เทคนิคการเขียน Essay อย่างง่ายและรวดเร็ว
โกยคะแนนพิชิตใจกรรมการ!!
เทคนิคการเขียน Essay อย่างง่ายและรวดเร็ว
ไม่ใช่เรื่องง่าย!
สำหรับการเขียน Essay หรือการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษในฐานะนักเรียนไทยแม้แต่นักเรียนต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
คงส่ายหน้าปวดหัวอยู่เหมือนกัน เพราะการเขียน Essay ให้ถูกต้อง
ตรงประเด็น และทำให้คนอ่านเข้าใจในบริบทที่เราต้องการสื่อสารนั้นไม่ใช่เรื่องหมูๆ
จึงจำเป็นต้องใช้การสั่งสมด้วยการอ่านบทความ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
และฝึกฝนการเขียนของเราให้สม่ำเสมอ วันนี้ Life on Campus จึงนำเทคนิคการเขียนเรียงความเพื่อเป็นเคล็ดลับดีๆ
ให้กับน้องๆ ที่ต้องการฝึกฝนงานเขียนให้ถูกใจกรรมการโกยคะแนนการเขียนได้สบายๆ..
โครงสร้างของการเขียน Essay ประกอบด้วย 3 ส่วน
Introduction
: ย่อหน้าแรกของ Essay ที่ใช้ในการเปิดเรื่อง
หรือเป็นส่วนแรกของเรียงความที่จะบอกให้ผู้อ่านทราบเบื้องต้นว่าเรียงความนี้กล่าวถึงเรื่องอะไร
มักจะไม่ใส่รายละเอียดมากนัก Introduction ที่ดีควรจะดึงดูดใจให้ผู้อ่านเกิดความสนใจและทำให้เกิดความรู้สึกอยากรู้ว่าเนื้อหาต่อไปนั้นจะเป็นยังไง
เรียกง่ายๆ ว่าทำให้ผู้อ่านอยากอ่าน Essay ของเราจนจบ สำหรับภายใน
Introduction จะมี Thesis Statement ซึ่งเป็นประโยคสำคัญที่บอกให้ผู้อ่านทราบว่า
Essay เรื่องนี้ต้องการจะกล่าวถึงอะไร
Body : ส่วนของเนื้อความ เป็นส่วนที่รวมเนื้อหา ใจความสำคัญของเรียงความไว้
โดยจะเป็นส่วนที่ยาวที่สุดของเรียงความ โดยตัวเนื้อความสามารถเขียนได้หลายย่อหน้า
ขึ้นอยู่กับข้อมูลเพิ่มเติมที่เราต้องการขยายความหรือยกตัวอย่างให้ผู้อ่านเข้าใจ
Conclusion : บทสรุป
เป็นการทบทวนและย้ำให้ผู้อ่านทราบว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไรให้ผู้อ่าน
หรือเป็นการสรุปสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดให้ผู้อ่านทราบ
โดยเนื้อหาเน้นรวบรวมใจความสำคัญจาก Introduction และ Body
ที่ได้กล่าวมาแล้ว
สำหรับส่วนของเนื้อความหรือ
Body
จะมีหน้าที่หลักๆ คือการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้อ่าน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือคล้อยตามกับเรียงความของเรามากขึ้น โดยจะประกอบด้วย 3
ส่วนย่อยคือ Topic Sentence, Supporting sentences และ Concluding
sentences
-
Topic
Sentence อยู่ส่วนแรกของของแต่ละ Body ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านทราบว่าเนื้อความย่อหน้านี้จะกล่าวถึงคือเรื่องอะไร
-
Supporting
sentences ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือขยายความจาก Topic
sentence รวมถึงการยกตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น
-
Concluding
sentences เป็นการสรุปย้ำใจความสำคัญของย่อหน้าให้ผู้อ่านทราบอีกครั้ง
สำหรับเทคนิคง่ายๆ ในการเขียน Topic sentence ที่ดีคือ
ควรจะเขียนให้เป็น Simple sentence หรือประโยคความเดียว
เพราะจะช่วยให้ประโยคมีความชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย
นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังในการเขียน Essay ที่ Life
on Campus นำมาให้น้องๆ
ได้อ่านกันเป็นข้อมูลในการเขียนเพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดทำให้เราโดนหักคะแนนได้ง่ายๆ
นั้นเอง..
เขียนบทนำให้ดึงดูด
อย่าสรุปทั้งหมดไว้ตั้งแต่เริ่ม!
ในการอ่าน Essay คณะกรรมการมักจะใช้เวลาเพียงแค่
1-2 นาทีเท่านั้น ดังนั้นบทนำของที่น้องๆ
เขียนควรจะดึงดูดความสนใจของผู้อ่านตั้งแต่เริ่มต้น
และไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะแก้บทนำใหม่หมดภายหลังจากที่เราเริ่มเขียนเนื้อหาของ Essay
ที่สำคัญคืออย่าเขียนสรุปเนื้อหาทั้งหมดในบทนำ
เพราะเท่ากับเป็นการเฉลยเนื้อหาไว้ตั้งแต่เริ่ม
ทำให้ผู้อ่านไม่อยากอ่านเนื้อหาต่อๆ ไป
หรือไม่มีความอยากรู้ที่จะติดตามตอนต่อไปนั้นเอง
รวมไปถึงคณะกรรมการเองก็เช่นกัน หากการเขียนบทนำของน้องๆ คือการสรุปทั้งหมด
คณะกรรมการก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอ่านเนื้อเรื่องที่เหลือของ Essay
จึงควรสร้างความแปลกใจหรือสร้างความรู้สึกอยากติดตามชวนให้อ่านไว้ในบทนำ
ด้วยการตั้งคำถามหรือประเด็นให้คณะกรรมการหรือผู้อ่านสนใจอ่าน Essay ของเราต่อไป
รวมถึงทำให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อสารด้วย
เช็คหลักไวยากรณ์ให้ดีก่อนส่ง!
เชื่อเถอะว่าชาวเอเชียส่วนใหญ่หรือแม้กระทั่งเด็กไทยมีความแม่นในการจำหลักไวยากรณ์อยู่แล้ว
เรียกว่าโครงสร้างเป๊ะ ถาม Tenses ไหนตอบได้หมด
หรืออาจเก่งแกรมม่ามากกว่าเจ้าของภาษาเสียอีก
ดังนั้นการทำข้อสอบการเขียนสิ่งสำคัญหลักๆ คือการเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์
ผู้เขียนคนใดสามารถจดจำโครงสร้างและเข้าใจการใช้ได้ถูกต้องย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง
Life on
Campus จึงมีเทคนิคการตรวจสอบแกรมม่าที่เราเขียนใน Essay เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
นั้นคือการอ่านย้อนหลังจากประโยคสุดท้ายไล่ขึ้นไปถึงประโยคแรก
เพื่อให้เราได้ตรวจสอบให้ดีทีละส่วน ทีละคำ ทีละประโยค เพื่อหาจุดผิดพลาดนั้นเอง
เพราะผู้เขียนส่วนใหญ่หากอ่านประโยคแรกไล่ลงมาปกติแล้วมักคิดว่างานเขียนของเรายอดเยี่ยม
แต่หากลองปรับ
ใช้ศัพท์ยาก..ไม่เข้ากับเนื้อหา
สำหรับใครที่ชอบใช้งัดคำศัพท์ยากๆ งัดคำศัพท์สวยๆ อลังการมาใช้ในงานเขียน
เพราะคิดว่ายิ่งใช้คำศัพท์ยากยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเก่งและรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นๆ
แต่น้องๆ รู้หรือไม่ว่าการใช้คำศัพท์เหล่านั้นในการเขียนเรียงความ หรือใช้ในการเขียนโปรยบทนำให้ดูสวยหรู
มันไม่ได้ทำให้เราได้เปรียบเสมอไป เพราะหากน้องๆ ไม่มั่นใจว่าความหมายคืออะไร
หรือไม่มั่นใจว่าจะเรียบเรียงอย่างไรในการเขียนประโยค
อาจทำให้เนื้อหาที่จะสื่อสารกับผู้อ่านนั้นผิดเพี้ยนและอาจทำให้โดนหักคะแนนได้
สำหรับเทคนิคการฝึกเขียน น้องๆ
สามารถหัดเขียนด้วยตัวเองด้วยการตั้งหัวข้อที่อยากเขียนขึ้นมาสักหนึ่งหัวข้อ
หรืออาจให้อาจารย์ที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมอบหัวข้อให้ลองฝึกเขียน เมื่อน้องๆ
ลองเขียน Essay เสร็จนำไปให้อาจารย์ตรวจงานเขียนดู
เพื่อจะได้คำแนะนำในการเขียน หรือหากพบจุดผิดพลาดใดๆ
อาจารย์ก็สามารถช่วยเหลือและให้คำปรึกษากับเราได้
ถือเป็นการเพิ่มทักษะการเขียนของเราไปในตัวด้วย
ลืมใส่แหล่งที่มา-แหล่งอ้างอิง
ความจริงแล้วการเขียนเรียงความทางวิชาการไม่เหมือนกับการเขียนบล็อกหรือโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค
หากน้องๆ อ้างอิงถึงแต่สิ่งที่เพื่อนพูด หรือเขียนคำคมขึ้นมาลอยๆ
อาจลดคุณค่าและความน่าเชื่อถือของเรียงความที่เขียนไปเลยก็ว่าได้
ยิ่งไปกว่านั้นการคัดลอกผลงานโดยไม่อ้างอิงถึงแหล่งที่มาให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
ดังนั้นน้องๆ ต้องเรียนรู้ถึงวิธีการอ้างอิงแหล่งที่มาให้ถูกต้อง
เป็นทักษะที่ต้องมีและต้องทำ
ซึ่งสามารถปรึกษาและขอคำแนะนำจากอาจารย์ที่สอนภาษาอังกฤษ
เรียนรู้จากเพื่อนร่วมชั้น หรือไม่ก็อ่านเรียงความทางวิชาการเยอะๆ
ก็สามารถช่วยเพิ่มพูนทักษะนี้ได้เช่นกัน
อ้างอิงข้อมูลจาก
-
http://www.usnews.com/education/
-
http://www.ieltsbuddy.com/ielts-essay.html
-
http://grammar.yourdictionary.com/writing/how-to-write-an-essay.html
-
http://www.torcheducation.com/?p=1567
ที่มา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มิถุนายน 2558 17:20 น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
รู้จักพวกเรา
แจก แบบฝึกคณิตศาสตร์ แบบทดสอบ แบ่งปัน สำหรับเพื่อน วัยเด็ก
From January 2, 2013 |
ค้นหา เนื้อหาใน Web นี้
Blog Archive
บทความที่ได้รับความนิยม
-
แจกแบบฝึกคณิตศาสตร์ เป็น WorkSheet สำหรับให้เด็ก ๆ ฝึกทำ ชุดที่ 1 นี้เป็นการ บวกเลข 1,2,3,4,5,6,7,8,9 กับเลขหลักเดียวอื่น ๆ เหมาะกับเด็ก อ...
-
แจกแบบฝึกคณิตศาสตร์ เป็น WorkSheet สำหรับให้เด็ก ๆ ฝึกทำ ชุดนี้เป็นชุดที่ 7 การบวกทั้งแบบมีการทดและ ไม่มีการทด ของเลข 2 หลัก ชุดละ 40 ข้อ...
-
แบบฝึกการคูณ คณิตศาสตร์ ประถม แบบฝึกการคูณ ชุดที่1 แบบฝึกการคูณ ชุดที่2 แบบฝึกการคูณ ชุดที่3 แบบฝึกการคูณ ชุดที่4 แบบฝึกการคูณ ชุดที...
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
Labels
- 2557 (1)
- 3to7 (7)
- 6-12 ปี (1)
- 6Q (1)
- 7to9 (12)
- กรดไขมัน (1)
- การเขียน Essay (1)
- การคูณ (4)
- การดูแลฟันของลูก (2)
- การทดลองวิทยาศาสตร์ (4)
- การบวก (1)
- การบวกเศษส่วน (1)
- การบีบน้ำนมแม่ (1)
- การลบเลข 1หลัก (1)
- การล้างจมูก (2)
- การล้างมือ (1)
- การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (7)
- การเลี้ยงลูกวัย 6-12 ปี (25)
- การเลี้ยงลูกวัยเรียน (31)
- การวัด (1)
- การหาร (4)
- เกมคณิตศาสตร์ (5)
- เกมเจ้าสีหาพวก (1)
- เกมพัฒนาสมองลูก (16)
- เกมแม่บอกทาง (1)
- เกมสร้างเสริมพัฒนาการ (19)
- เกมหาคำคล้องจอง (1)
- ข้อสอบคณิตศาสตร์ (2)
- ข้อสอบ ป.1 (2)
- ข้อสอบ ป.2 (1)
- คณิตคิดเร็ว (28)
- คณิตศาสตร์ (32)
- ความยาวรอบรูป (1)
- ความสัมพันธ์ (8)
- คออักเสบ (1)
- จตุรัสกล (1)
- โจทย์ปัญหา (1)
- เฉลย (2)
- ช่องปาก (1)
- ไซนัสอักเสบในเด็ก (1)
- ดนตรี (2)
- เด็กกินยาก (1)
- เด็กติดเกม (1)
- เด็กวัยเรียน (2)
- โดเรมอน (1)
- ตั้งโต๊ะกินข้าว (1)
- ตา (1)
- ทอนชิลอักเสบ (1)
- เทคนิคสอนลูกให้รักการอ่าน (1)
- ธาลัสซีเมีย (1)
- นมแม่ (2)
- นาฬิกา (1)
- นิทานก่อนนอน (1)
- บวกเลข (9)
- บวกเลข 2 หลัก (2)
- แบบฝึก (24)
- ใบงาน (17)
- ปฐมวัย (4)
- ประถม (24)
- ปวดท้อง (1)
- ปานแต่กำเนิด (1)
- เปรียบเทียบเศษส่วน (1)
- ผลสอบ (1)
- พว. (1)
- พัฒนาการ (31)
- พื้นที่ (1)
- พูดช้า (1)
- เพลงกล่อมเด็ก (1)
- เพลง Classic (1)
- ภาพระบายสี (1)
- ภาวะบกพร่องในทักษะการเรียน (3)
- ภาษาอังกฤษ (3)
- ม.4 (1)
- มหิดลวิทยานุสรณ์ (1)
- ไม่ยอมไปโรงเรียน (1)
- ร้องไห้ 3 เดือน (1)
- รักการอ่าน (1)
- โรคติดเชื้อ (1)
- โรคในเด็ก (7)
- โรคลมชัก (1)
- โรคหัวใจ (1)
- เลข 3 หลัก (1)
- เลิกขวดนม (1)
- เลี้ยงลูกให้มี E.Q.สูง (3)
- วัคซีน (3)
- วิทยาศาสตร์ (3)
- เวลา (1)
- ศิริราช (1)
- ศิลปะ (1)
- เศษส่วน (4)
- สมองดี (1)
- สมาธิสั้น (2)
- สี่เหลี่ยม (1)
- สุขภาพ (13)
- สุขภาพเด็ก (19)
- หนังสือ (1)
- หมู่โลหิต (1)
- อนุกรม (2)
- อนุบาล (13)
- อนุบาล 3 (5)
- อีโบลา (1)
- english (3)
- kids (7)
- LD (1)
- math (28)
- math3year (2)
- mathgame (6)
- mathtest (17)
- music (3)
- worksheet (31)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น